ตอบทุกคำถาม เกี่ยวกับการ ลดขนาดกระเพาะอาหาร โดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง

ตอบทุกคำถามก่อนตัดสินใจ ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก ด้วยศัลยกรรมผ่าตัด ลดขนาดกระเพาะอาหาร แบบสลีฟ โดยศัลยแพทย์เฉพาะทางประจำโรงพยาบาลศัลยกรรม SLC การศัลยกรรมลดขนาดกระเพาะ ช่วยให้ผอมจริงหรือผอมทิพย์ ถ้าผอมแล้วผอมอย่างยั่งยืนหรือเปล่า? มีอะไรที่เราจำเป็นต้องรู้ก่อนตัดสินใจ ผ่าตัดกระเพาะอาหาร เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลยค่ะ

ลดขนาดกระเพาะอาหาร

1. การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารเหมาะกับใครบ้าง?

ผู้ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 แต่น้อยกว่า 35 สามารถผ่าตัดกระเพาะอาหารได้ หากมีโรคจากความอ้วนที่จำเป็นต้องแก้ไข
ผู้ที่ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 35 ที่มีโรคร่วมที่เกิดจากโรคอ้วน เช่น เบาหวาน ความดัน และ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

2. หลังจากผ่าตัด ลดขนาดกระเพาะอาหาร สามารถกลับมาอ้วนได้อีกหรือไม่?

การผ่าตัดกระเพาะอาหาร ตามปกติแล้ว โอกาสที่จะกลับมาอ้วนอีกน้อยมาก เพราะ รับประทานอาหารได้น้อยลง ปริมาณกระเพาะเล็กลง แต่ถ้าน้ำหนักลดลงแล้ว แต่ กลับมาอ้วนขึ้นอีก ต้องตรวจหาสาเหตโรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่น Gut Hormone ทำให้ หิวบ่อยขึ้น ไม่รู้สึกอิ่ม

3. การผ่าตัด ลดขนาดกระเพาะอาหาร ได้ผลจริงหรือไม่?

การผ่าตัดกระเพาะอาหาร ช่วยลดน้ำหนักได้จริง ในระยะแรกน้ำหนักจะลดเยอะมาก ต่อมาจะลดเป็นสัดส่วนที่น้อยลง น้ำหนักจะคงที่ภายใน 1-2 ปีหลังผ่าตัด แต่ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายของการลดน้ำหนัก

4. ศัลยกรรมตัดกระเพาะอาหาร มีความเสี่ยงหรือเปล่า?

มีความเสี่ยงเนื่องจาก
เป็นการผ่าตัดเอาเนื้อกระเพาะออก ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
ระยะยาวมีความเสี่ยงกับการขาดวิตามิน เพราะ กระเพาะอาหารสร้างวิตามินบางชนิด
มีความเสี่ยงจากการผ่าตัดเช่น ยาสลบ แผลเย็บไม่ติด ขึ้นกับความชำนาญของแพทย์ผู้ผ่าตัด

5. ก่อนผ่าตัด ลดขนาดกระเพาะอาหาร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวด ยาลดกล้ามเนื้ออักเสบ วิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด (ยาโรคประจำตัวควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้ทำการรักษา)
แจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา รวมถึงอาหารเสริมที่รับประทาน
งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์_และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อหลังศัลยกรรมตัดกระเพาะอาหาร นอกจากนี้สารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือด อาจมีผลให้แผลหายช้าลงกว่าปกติ
การศัลยกรรมลดขนาดกระเพาะอาหารเป็นการผ่าตัดด้วยวิธีการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดคนไข้ต้อง งดรับประทานอาหารและงดดื่มน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงขึ้นไป
ล้างสีเล็บ ถอดเล็บต่อ ก่อนวันผ่าตัด เนื่องจากวิสัญญีแพทย์ต้องวัดค่าออกซิเจนบริเวณปลายนิ้ว การทาสีเล็บหรือต่อเล็บจะทำให้ผลการวัดค่าคาดเคลื่อน
กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยปัจจุบัน เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ ท้องเสีย มีแผลติดเชื้อ ตาแดง ตาเจ็บ ฯลฯ กรุณาแจ้งให้พยาบาลทราบอย่างน้อย 2 วันก่อนผ่าตัด
เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวม ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

6. หลังผ่าตัดมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร?

อาการปวด บวม และช้ำบริเวณ 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยอาการดังกล่าวจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
กรณีศัลยแพทย์ปิดแผลด้วยก๊อซต้องระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำอย่างน้อย 3-5 วันหลังการผ่าตัด และกรณีที่ศัลยแพทย์ปิดแผลด้วยแผ่นกันน้ำสามารถอาบน้ำได้ปกติ หากแผ่นปิดแผลหลุดร่อนหรือซึม ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ หรือให้กลับมาทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นปิดแผลได้ที่คลินิก หากแผลเปียกควรใช้ผ้าสะอาดซับบริเวณแผลให้แห้งทุกครั้ง
หลังผ่าตัดลดขนาดกระเพาะผู้รับบริการอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเจ็บคอได้ประมาณ 1-3 วันแรกหลังการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้เป็นอาการข้างเคียงจากการดมยาสลบ
ควรงดการยกของหนักหรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ หลังการผ่าตัดประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
งดออกกำลังกายหลังผ่าตัดอย่างน้อย 4 สัปดาห์
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 –2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือด อาจมีผลให้แผลหายช้าลงกว่าปกติ หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

7. หลังผ่าตัดสามารรับประทานอาหารได้ตามปกติไหม แล้วรับประทานอะไรได้บ้าง?

แนวทางการรับประทานอาหารหลังจากการผ่าตัดกระเพาะอาหารที่ควรรับประทานหลังการ ผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนัก

1-7 วันหลังการผ่าตัด

ทานอาหารเหลว หรือเครื่องดื่มที่มีลักษณะเหลวใส ไม่มีกากใย ไม่มีแก๊ส และไม่ใส่น้ำตาล
น้ำสมุนไพร (ไม่ใส่น้ำตาล)
น้ำซุปใส
น้ำผลไม้ที่ผ่านการกรองกากใย และไม่ใส่น้ำตาล

1 สัปดาห์หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร

เริ่มทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีเนื้อ หรือมีความข้นเพิ่มมากขึ้นได้ แต่ต้องมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และไม่มีกากใย รวมถึงไม่ใส่น้ำตาล

ซุปข้น
นมจืด หรือนมพร่องมันเนย
น้ำเต้าหู้ ไม่ใส่น้ำตาล
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ลดขนาดกระเพาะอาหาร

เริ่มรับประทานอาหารอ่อน หรือย่อยง่าย คล้ายกับอาหารเด็กได้แล้ว

ไข่ตุ๋นหมูบด
ปลานึ่ง
เกี๊ยวน้ำ
แกงจืดเต้าหู้ไข่
ข้าวต้มปลา
โจ๊กหมูบด

4 สัปดาห์หลังการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร

หากสามารถทานอาหารอ่อนได้ดี สามารถเริ่มทดแทนด้วยอาหารธรรมดาที่มีเนื้อหยาบข้นตามลำดับ แต่ถ้ายังมีอาการคลื่นไส้ ยังไม่สามารถรับประทานอาหารในระยะนี้ได้ ก็ยังสามารถรับประทารอาหารในระยะที่ 3 ต่อไปได้ หรือรับประทานระยะที่ 4 แล้วเกิดคลื่นไส้ ก็สามารถกลับไปรับประทานระยะที่ 3 ก็ได้เช่นกัน เนื่องจากผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเข้าในระยะที่ 4 ตามกำหนดที่แนะนำตามเวลา แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ควรเป็นอาหารธรรมดาที่ปรุงสุก โดยเน้นโปรตีนสูงเป็นหลัก สามารถเริ่มรับประทานผักนิ่มๆ ได้ ผลไม้ควรเรื่มทานเป็นผลไม้ปอกเปลือกในปริมาณน้อย ๆ

ไก่/หมูอบซอส
เสต็กปลา
ลาบหมู หรือไก่ แบบไม่เผ็ด
ไข่ยัดไส้

1 เดือนหลังผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร

โดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพอาหารที่มีโปรตีนสูง ไม่มัน ไม่ใส่น้ำตาล หรือหวานน้อย และควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดอย่างช้าๆ สำหรับผัก และผลไม้สามารถทานได้ตามปกติ เพื่อควบคุมพลังงานส่วนเกิน และน้ำหนักตัว อาจจะรับประทานวิตามิน และแร่ธาตุเสริมตามคำแนะนำของแพทย์

ทำไมต้องศัลยกรรมลดขนาดกระเพาะอาหาร ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC

โรงพยาบาลมาตรฐาน Boutique Hospital
ออกแบบและผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์ด้านศัลยกรรมลดขนาดกระเพาะและการลดน้ำหนัก
เทคโนโลยีห้องผ่าตัดทันสมัย ควบคุมความสะอาดและความปลอดภัยด้วยระบบคอมพิวเตอร์
วิสัญญีแพทย์ 1:1 ดูแลตลอดการผ่าตัด
เครื่องป้องกันลิ่มเลือดอุดตันในเคสดมยาสลบ
พยาบาลวิชาชีพดูแลแบบ 1:1 ตลอด 24 ชั่วโมง
Personal Patient Advisor ผู้ดูแลให้คำปรึกษาความงามส่วนตัวแบบ 1:1
Recovery Room : หลังเสริมหน้าอกผู้รับบริการพักฟื้นด้วยห้องพักที่ตกแต่งภายในตามมาตรฐานห้องพักโรงแรม เพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น พร้อมการต้อนรับอย่างพิเศษ ด้วย Welcome Amenities มอบให้ผู้รับบริการจากทีมผู้บริหารพร้อมด้วย Welcome drink และของขวัญแสดงความขอบคุณด้วย เซท Amenity สปา จาก Brand MAAI