อีกหนึ่งศัลยกรรมยอดฮิตที่อยู่คู่วงการศัลยกรรมไทยมายาวนาน อย่างศัลยกรรมดูดไขมัน Vaser LipoSelection ศัลยกรรมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ลดเฉพาะส่วน เช่น ลดต้นขา ลดต้นแขน ลดไขมันหน้าท้อง หรือ ลดไขมัน บริเวณต่าง ๆ ในร่างกายที่ไม่สามารถกำจัดไขมันออกไปได้ด้วยวิธีอื่น

ซึ่งการทำศัลยกรรมดูดไขมัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยสลายไขมันออกจากร่างกายที่รวดเร็ว มีความปลอดภัย ฟื้นตัวเร็ว และยังช่วยทำให้รูปร่างได้สัดส่วนที่สวยงามยิ่งขึ้น ในปัจจุบันนี้เอง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ศัลยกรรมดูดไขมันในปัจจุบันนี้ พัฒนาขึ้นจากศัลยกรรมดูดไขมันในแบบเก่า

ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC เรามีเครื่องดูดไขมัน Vaser LipoSelection ที่สามารถดูดไขมันหน้าท้องได้อย่างนุ่มนวลและนำไขมันออกมาได้เยอะที่สุด จึงทำให้ผู้รับบริการจะมีความมั่นใจที่มากขึ้น มีสัดส่วนที่สวยงามรับกับสรีระและสนุกกับการแต่งตัวโดยไม่มีไขมันส่วนเกินกวนใจ ยืนยันด้วยเสียงของลูกค้าจริงผ่าน Reality Live และ รีวิวดูดไขมัน จากดาราและเซเลบริตี้อีกมากมาย

การดูดไขมัน Vaser LipoSelection คือการศัลยกรรมที่สามารถช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด และไม่ใช่แค่ช่วยกำจัดไขมันในบริเวณหน้าท้อง แต่ยังสามารถช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดได้อีกด้วย

โดยศัลยกรรมดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะอ้วน เคยลดความอ้วนมาแล้วแต่ไม่เห็นผล หรือจะเป็นผู้ที่ต้องการลดเฉพาะส่วน ไม่ว่าจะเป็นการ ลดต้นแขน ต้นขา หรือจะเป็นบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย ที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ด้วยวิธีอื่น การศัลยกรรมดูดไขมันจึงเป็นวิธีที่สามารถช่วยสลายไขมันออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และเห็นผลมากที่สุด

โดยหลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน Vaser LipoSelection ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC จะใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) โดยคลื่นเสียงจะทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันที่เป็นก้อนหนาแน่นอยู่ในชั้นผิวให้สลายตัวกลายเป็นของเหลว และสามารถดูดไขมันออกมาได้อย่างนิ่มนวล โดยไม่รบกวนเนื้อเยื่อและเส้นประสาทรอบข้าง ช่วยลดการเกิดรอยบวมช้ำ อีกทั้งสามารถกระชับผิวหนังไปได้พร้อมกัน

และที่พิเศษไปกว่านั้น ยังมีเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า เทคนิค Diamond Shape™ เป็นการดูดไขมันในบริเวณชั้นตื้น ที่สามารถช่วยให้เอวคอดกิ่ว และเพิ่มความเคิร์ฟหลังให้งอนสวย รับกับสรีระ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ความแตกต่างระหว่างการ ดูดไขมัน Vaser LipoSelection กับการดูดไขมันแบบเดิม

• ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วน ผู้ที่ออกกำลังกายหรือคุมอาหารมาทุกวิธีแต่สัดส่วนยังไม่ลดลง เช่น ต้นขา ท้องแขน หน้าท้อง เอว ปีกหลัง ไขมันสะสมบริเวณสะโพก ข้อเท้า
• ผู้ที่ต้องการลดไขมัน ลดต้นขา ลดต้นแขน ลดหน้าท้อง หรือลดสัดส่วนเฉพาะจุดอย่างรวดเร็วด้วยวิธีที่ปลอดภัย
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญ
• ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย BMI ต่ำกว่า 30

วิธีคำนวณค่าดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index (BMI)

ค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง

ยกตัวอย่าง ผู้รับบริการต้องการ ลดหน้าท้อง ด้วยการดูดไขมันส่วนเกิน ศัลยแพทย์จะประเมินค่า BMI ของผู้รับบริการก่อน โดยวิธีคำนวณค่า BMI มีขั้นตอนดังนี้ ผู้รับบริการมีน้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม ความสูง 170 เซนติเมตร หรือ 1.7 เมตร เมื่อนำมาคำนวณจะได้ดังวิธีด้านล่าง

การศัลยกรรมดูดไขมัน Vaser LipoSelection มีวัตถุประสงค์เพื่อ กำจัดไขมันส่วนเกิน เฉพาะจุด ที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยวิธีอื่น ซึ่งก่อนเข้ารับการดูดไขมันผู้รับบริการจำเป็นต้องทราบถึงข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อม รวมไปถึงวิธีการดูแลตัวเองและอาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังดูดไขมัน ผู้รับบริการจะต้องเตรียมความพร้อมและดูแลตัวเองอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสุดหลังดูดไขมัน ทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

1. ตรวจร่างกายก่อนทำศัลยกรรมดูดไขมัน
2. งดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิด และยาละลายลิ่มเลือดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
3. งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 4 สัปดาห์
4. กรณีที่ทานยาลดความอ้วนเป็นประจำ ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบในเวลาที่ปรึกษาแพทย์ก่อนผ่าตัด ทางที่ดี ควรหยุดยาอย่างน้อย 4 สัปดาห์
5. หากดมยาสลบควรงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง ทางโรงพยาบาลศัลยกรรม SLC อาจให้ทานยาปฏิชีวนะ 1-2 วันก่อนวันผ่าตัด
6. ในวันผ่าตัด ควรมาถึงโรงพยาบาลล่วงหน้า 2 ชั่วโมง
7. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อมไม่ควรตื่นเต้นมาก และควรทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำ และความเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
8. ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันในช่วงที่มีประจำเดือนและหลังประจำเดือนผ่านพ้นไปได้ไม่กี่วัน (ซึ่งมีผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ช่วงนั้นร่างกายเราจะบวมและเสี่ยงต่อการเสียเลือดมากยิ่งขึ้น)

1. ในวันผ่าตัดควรใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ ใส่สบายไม่รัดรูปมากจนเกินไป ผู้รับบริการที่ต้องการดูดไขมันบริเวณขา ควรเลือกกางเกงที่สวมสบายไม่ฟิตมาก รองเท้าสวมรองเท้าที่สวมสบายไม่หุ้มข้อ ลดต้นขา
2. ควรพาเพื่อนมาด้วยและอุปกรณ์ของมีค่าควรเก็บไว้ที่บ้านหากไม่จำเป็นไม่ต้องใส่มาในวันผ่าตัด
3. ไม่แนะนำให้ขับรถมาเองในวันผ่าตัด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ แนะนำใช้บริการรถสาธารณะจะดีที่สุด

1. แพทย์จะทำการประเมินและมาร์คจุดในบริเวณส่วนเกิน ที่ต้องการนำไขมันออกจากร่างกาย โดยอ้างอิงจากโครงกล้ามเนื้อเดิมของคนไข้เพื่อให้ผลลัพธ์ดูความเป็นธรรมชาติ
2. ก่อนผ่าตัดจะให้ยานอนหลับแก่คนไข้เพื่อคลายความกังวล และเริ่มทำการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง และจะคอยดูแลตลอดการผ่าตัด
3. ศัลยแพทย์จะเปิดแผลในบริเวณที่ต้องการนำไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายประมาณ 0.5 ซม. ในตำแหน่งที่ซ่อนแผลได้ เพื่อความสวยงามและเป็นธรรมชาติ
4. ศัลยแพทย์ใช้เข็มฉีดน้ำเกลือผสมยาชา และยาหยุดเลือดผ่านแผลที่เปิด ต่อด้วยท่อดูดไขมัน Vaser LipoSelection เพื่อดูดไขมันในตำแหน่งที่วางแผนไว้
5. หลังจากที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรม ดูดไขมัน Vaser LipoSelection เสร็จ ศัลยแพทย์จะพันผ้ารัดหน้าท้อง เพื่อทรงที่ทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น
6. หลังทำศัลยกรรม ดูดไขมัน Vaser LipoSelection เสร็จ ศัลยแพทย์จะให้พักฟื้นประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว หากไม่พบความผิดปกติ คนไข้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

ระยะเวลาเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม ดูดไขมัน Vaser LipoSelection

• การดูดไขมันใช้เวลาในการทำ 1 – 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่ดูดไขมัน
• วันตัดไหม : ตัดไหม 7 – 14 วัน
• ระยะเวลาพักฟื้น : พักฟื้น 2 – 3 วัน ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
• Follow Up ติดตามผล : 7 – 14 วัน และ 1 เดือน

ผลลัพธ์ที่ได้หลัง ดูดไขมัน Vaser LipoSelection

• Reshape ส่วนเกินที่แก้ไขไม่ได้ด้วยการออกกำลังและควบคุมอาหาร ทำให้สัดส่วนเล็กลง สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกได้ในครั้งเดียว เห็นผลในครั้งแรกที่ทำ
• สรีระรูปร่างสวยงาม สัดส่วนรูปร่างดูสมส่วนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• ช่วยลดปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดจากการมีไขมันสะสมมากเกินไป

1. หลังจากที่ทำศัลยกรรมดูดไขมันไปแล้ว แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ ภายใน 6 ชั่วโมงแรก เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่อาจสูญเสียไปจากการทำศัลยกรรมดูดไขมัน
2. สวมชุดกระชับสัดส่วนเป็นเวลา 1 เดือน โดยในช่วง 3 วันแรก ใส่ตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงลดลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมง จะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ ไม่ควรใส่ตลอด 24 ชั่วโมง
3. หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อน โดยมีการขยับร่างกายบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดอุดตัน และช่วยระบายของเสียที่ค้างอยู่ในร่างกาย
4. งดทานอาหารรสเค็มหรืออาหารที่มีโซเดียมสูงเพื่อป้องกันการบวมน้ำ
5. งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
6. งดการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด งดการทำงานหนักหรือการออกกำลังกายหนัก ที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนในบริเวณที่ทำการดูดไขมันอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นควรออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อในบริเวณที่ดูดไขมันออกมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้รูปร่างกระชับเพรียวสมส่วนมากขึ้น
7. ดูแลให้แผลแห้งสะอาด ไม่ควรให้มีคราบเลือดติดอยู่ที่แผล หากมีคราบเลือดติดอยู่บริเวณแผลสามารถใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบา ๆ บริเวณบาดแผล
8. รับประทานยาแก้อักเสบและยาลดบวมตามที่แพทย์จัดให้ หากมีอาการปวดก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้

1. วันแรกหลังจากกลับบ้านแพทย์จะรัดผ้ายืดรัดกระชับรูปทรงในบริเวณที่ทำการดูดไขมันออก วันรุ่งขึ้นสามารถแกะผ้าที่รัดเอาไว้ได้และเช็ดทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำเกลือและเปลี่ยนผ้ารัดใหม่แล้วรัดตามเดิม หรือเปลี่ยนมาใส่ชุดซัพพอร์ตได้เลย ต้องพันผ้าหรือชุดซัพพอร์ตแบบรัดพิเศษเฉพาะส่วน (Compression Garment) ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงประมาณ 2 – 4 สัปดาห์แรกหลังทำ (แนะนำให้รัดติดต่อกันนาน 2 – 3 เดือน)
2. หลังจากการดูดไขมันในวันแรก งดการอาบน้ำ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัด 1 วัน โดยใช้พาสเตอร์กันน้ำปิดตรงแผลผ่าตัดเพื่อป้องกันแผลโดนน้ำ หลังจากตัดไหมถึงให้แผลโดนน้ำได้ตามปกติ
3. สวมชุดกระชับสัดส่วนตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นจึงค่อยลดลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เดือน หากต้องการแกะชุดกระชับสัดส่วน ให้ทำบนเตียงในท่านั่ง โดยค่อย ๆ ถอดชุดช้า ๆ

1. ช่วง 1 – 3 วันแรก แผลผ่าตัดจะมีน้ำเกลือปนเลือดไหลซึมออกมา ควรทำการเปลี่ยนผ้าก๊อซปิดแผลอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
2. ในบางรายอาจมีอาการวิงเวียนศีรษะหลังดูดไขมัน เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็วจากการ สลายไขมัน ผู้รับบริการควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเข้าทดแทน หรือในบางกรณีอาจเกิดอาการวิงเวียนศีรษะหลังจากใส่ชุดกระชับส่วน เนื่องจากการใส่ชุดกระชับสัดส่วนจะทำให้เลือดถูกส่งไปหล่อเลี้ยงสมองเป็นจำนวนมาก หลังจากถอดชุดออกจะเกิดการคลายตัวของเส้นเลือด ทำให้เลือดถูกดึงกลับมาหล่อเลี้ยงส่วนอื่นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สมองขาดเลือดชั่วคราว จึงเกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้

ดังนั้นให้นั่งบนเตียงแล้วค่อย ๆ ถอดชุดกระชับสัดส่วน แล้วหยุดรอดูอาการ หากไม่มีอาการสามารถถอดให้หมดทั้งตัวแต่ก็ยังนั่งอยู่ รอ 5 นาทีจึงค่อยลุก แต่หากเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะให้รูดซิปขึ้นไปใหม่ แล้วนั่งพักหรือนอนพักสักครู่

3. รอยแผลระยะแรกจะเห็นชัดในช่วง 2 – 3 เดือนแรก โดยรอยแผลจะมีสีเข้มขึ้นและหนา ซึ่งรอยแผลจะค่อย ๆ จางลงและนิ่มลงจนเป็นปกติในเวลา 1 ปี โดยในระยะแรกหลังดูดไขมัน ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดด และควรทาครีมกันแดดบริเวณแผลที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป
4. หลังจากที่ตัดไหมไปแล้ว บาดแผลจะเริ่มเข้าที่และแห้งสนิทภายใน 1 – 2 สัปดาห์ ถ้าเกิดแผลลักษณะนูนแข็ง สามารถนวดโดยนิ้วคลึงเบา ๆ บริเวณรอยแผล เพื่อลดการดึงรั้งของบาดแผล กรณีที่แผลเกิดรอยดำสามารถทายาลบรอยแผลเป็นหรือเข้ารับบริการเลเซอร์ลบรอยแผลเป็นได้
5. อาการ บวม รอยเขียวช้ำ อาการเจ็บ ชา หรือรู้สึกแสบร้อนอาจเกิดขึ้นได้ แต่เป็นเพียงชั่วคราวในช่วงแรกหลังการผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งหลังจาก 1 – 6 เดือนไปแล้ว อาการบวม เขียว ช้ำ ทั้งหมดจะหายไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลและขึ้นกับปริมาณไขมันรวมถึงบริเวณที่ดูดไขมัน
6. การดูดไขมันอาจมีการกระทบกระเทือนเส้นประสาทรับความรู้สึกได้ หลังจากผ่าตัดอาจมีลักษณะอาการเจ็บแปลบ ๆ ในบางตำแหน่งที่สลายไขมัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้น อย่างไรก็ตามถ้ามีอาการปวดและมีการบวมแดงหรือเขียวมากควรกลับมาให้ศัลยแพทย์ตรวจโดยทันที

1. ดูดไขมันได้อย่างนิ่มนวลโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ อ่อนโยนต่อผิวหนัง มีความแม่นยำและปลอดภัย ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย (USFDA, ThaiFDA)
2. สลายไขมัน อย่างถาวรและได้ปริมาณมากกว่าการดูดไขมันแบบอื่นทุกชนิด
3. เห็นผลเร็วและชัดเจน ลดปัญหาในเรื่องของผิวเป็นโพรง เพราะเนื้อเยื่อคอลลาเจนที่พยุงผิวไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย
4. แผลขนาดเล็กมาก 0.5 ซม. และซ่อนในจุดที่มองเห็นได้ยาก
5. ดูดไขมันโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง มีความรู้ในด้านหลักสรีรศาสตร์ ไม่เพียงแต่จะดูดไขมันส่วนเกินออกมา แต่ยังดีไซน์รูปร่างให้เข้ากับสรีระของแต่ละบุคคล เพื่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันที่มากกว่า
6. ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1 วัน
7. ทำได้แทบทุกบริเวณในร่างกาย ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการ ลดหน้าท้อง ลดต้นขา ลดต้นแขน หรือแม้จุดเล็ก ๆ อย่างเช่น น่อง หัวเข่า และ ใบหน้า

ผสานคุณสมบัติเอกลักษณ์ของพลาสมาฮีเลียม (Plasma) ร่วมกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF: Radio Frequency) โดยคลื่นความถี่วิทยุ (RF) จะทำให้เซลล์ไขมันที่เป็นก้อนสลายตัวเป็นของเหลว และสามารถ ดูดไขมัน ออกมาได้อย่างนิ่มนวล ลดความบอบช้ำ เนื้อเยื่อและเซลล์รอบข้างได้รับความเสียหายน้อยที่สุด และพลังงานพลาสมา (Plasma) จะสร้างพลังงานความร้อนสูงถึง 85 องศาเซลเซียส ทำให้ผิวกระชับหดตัว เนื้อเยื่อจะเข้ามาติดกันทันทีหลังดูดไขมัน ช่วยลดการเกิดโพรงใต้ผิว กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวหลังดูดไขมันกระชับเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น

1. ลดการซึมของเลือดหลังดูดไขมัน
2. ลดการบอบช้ำ ลดการอักเสบของแผลหลังดูดไขมัน
3. ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้นหลังการ กำจัดไขมันส่วนเกิน
4. ผิวกระชับไว ไม่ต้องทำซ้ำ
5. เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
6. กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ยืดหยุ่นมากขึ้น
7. หลังจากยกกระชับด้วย J Plasma ผิวจะกระชับหดตัวทันที 10-30% และจะเห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นหลังทำนั้น 3-6 เดือน

รวมรีวิว ดูดไขมัน Vaser LipoSelection ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC

Ans: ทั้งนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า การทำศัลยกรรมดูดไขมัน ไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่อย่างใด แต่นี่เป็นการทำศัลยกรรมเพื่อดูดไขมันส่วนเกินที่มีอยู่ในร่างกายบางส่วน (เฉพาะจุด) เพื่อทำให้สัดส่วนลดลง โดยที่น้ำหนักตัวไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากเท่าไหร่

Ans: ในการใส่ชุดกระชับสัดส่วน หลังทำศัลยกรรมดูดไขมัน นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้รับบริการจำเป็นต้องใส่ตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ เพราะการใส่ชุดกระชับสัดส่วนช่วยพยุงไม่ให้ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย และช่วยให้ผิวกระชับเข้าที่ได้เร็วนั่นเอง

Ans: หลังจากที่ทำศัลยกรรมดูดไขมัน ร่างกายจะยังมีอาการบวมจากน้ำเกลือและเลือดที่ค้างอยู่ในบริเวณที่ดูดไขมัน ซึ่งในร่างกายจะค่อย ๆ ระบายเลือด น้ำเกลือ และของเสียผ่านทางบริเวณแผลที่ดูดไขมัน หลังจากนั้นร่างกายจะฟื้นฟูส่วนที่เสียหาย ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นตามลำดับ

Ans: ผลลัพธ์หลังทำศัลยกรรมดูดไขมัน โดยปกติจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำประมาณ 1 เดือน และเห็นผลลัพธ์ที่เข้าที่อย่างชัดเจนประมาณ 3 – 6 เดือนขึ้นไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและปัญหาของแต่ละบุคคล

Ans: เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไขมันจะมีลักษณะคล้ายกับฟองน้ำที่มีขนาดใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบา และสามารถกักเก็บน้ำได้ ซึ่งแตกต่างกับกล้ามเนื้อและกระดูก ที่มีความหนาแน่นมาก แค่ชิ้นเล็ก ๆ ก็อาจมีน้ำหนักมากกว่าก้อนไขมันหลายเท่าตัว

ดังนั้นหลังจากที่ทำศัลยกรรมดูดไขมันไปแล้ว เซลล์ไขมันจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ก็จริง แต่มันสามารถขยายตัวได้หลายเท่ากว่าปกติ ซึ่งเซลล์ไขมันจะขยายก็ต่อเมื่อเรารับพลังงานจากการกินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ จนร่างกายเผาผลาญไม่ทัน ทำให้เกิดเป็นพลังงานส่วนเกินที่สะสมในเซลล์ไขมัน และทำให้ขนาดเซลล์ขยายตัว

เพราะฉะนั้นเมื่อทำการดูดไขมันออกไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ควรหันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพ และควรใส่ใจในเรื่องการออกกำลังและควบคุมน้ำหนักให้มากกว่าก่อนดูดไขมัน เพื่อเป็นการรักษารูปร่างและป้องกันการขยายตัวของเซลล์ไขมัน

Ans: ในการดูดไขมันที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ศัลยแพทย์จะเปิดแผลจุดเล็ก ๆ ขนาด 0.4 – 0.5 ซม. ซึ่งมีขนาดเล็กมาก โดยตำแหน่งของรอยแผลศัลยแพทย์จะซ่อนในบริเวณที่สังเกตเห็นได้ยาก อีกทั้งรอยแผลจะค่อย ๆ จางลงจนมองไม่เห็นเมื่อเวลาผ่านไป

Ans: จริง ๆ แล้วไขมันจากร่างกายสามารถนำไปเติมส่วนอื่นในร่างกายได้อย่างปลอดภัย โดยการนำเซลล์ไขมันไปคัดแยกเซลล์ไขมันดี แล้วนำมาเติมยังจุดอื่น ๆ แต่การดูดไขมันด้วย Vaser LipoSelection ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวดน์เข้าไปสลายไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันตาย ไม่เหมาะแก่การนำไปเติมเต็มในส่วนอื่นมากเท่าไหร่

Ans: สำหรับใครที่เคยทำศัลยกรรมดูดไขมันไปแล้ว เกิดพบปัญหา ผิวไม่กระชับ ผิวเหี่ยว ผิวไม่เรียบ ผิวเป็นคลื่น สามารถยกกระชับผิวด้วย J-Plasma ได้เช่นกัน โดยข้อดีของการยกกระชับผิวด้วย J-Plasma จะสามารถช่วยยกกระชับผิวให้กระชับขึ้นทันที โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อหรือเส้นประสาท และยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจนขึ้นอีกด้วย

Ans: สำหรับคนที่มีปัญหาหน้าท้องย้วย แต่อยากจัดการปัญหานี้ให้จบภายในครั้งเดียว หากตัดสินใจทำศัลยกรรมดูดไขมัน บางทีผลลัพธ์ที่ได้กลับมาอาจจะยังไม่ตอบโจทย์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ก็ขอแนะนำศัลยกรรม ตัดหนังหน้าท้อง ด้วยเทคนิค Victorian Waist Surgery™ ที่เป็นศัลยกรรมที่ผสมผสานระหว่างการตัดหนังหน้าท้องกับการดูดไขมันเข้าร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และเป็นอีกหนึ่งศัลยกรรมที่ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับผู้ที่กำลังพบเจอปัญหาเหล่านี้ อย่างไรก็แล้วแต่ ปัญหาของแต่ละบุคคลก็มีความแตกต่างกันออกไป สามารถเข้ามาปรึกษาเพื่อให้ศัลยแพทย์ประเมินก่อนได้เลย

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่ต้องการทำศัลยกรรมดูดไขมัน Vaser LipoSelection แล้วกำลังศึกษาหาข้อมูลอยู่ ก็หวังว่าข้อมูลที่นำมาให้ทั้งหมดนี้ จะเป็นตัวช่วงในการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย และสำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน ก็สามารถแอดไลน์เข้ามาสอบถามหรือปรึกษาได้เลย เรามีทีมศัลยแพทย์คอยให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา หรือถ้าเกิดว่าใครที่ตัดสินใจได้แล้ว ว่าต้องการทำศัลยกรรมดูดไขมัน Vaser LipoSelection ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ก็สามารถเข้าได้เลย รับรองว่าทีมศัลยแพทย์จะเปลี่ยนให้คุณเป็นคนใหม่ในเวอร์ชั่นที่ได้ที่สุดได้แน่นอน