อันยองทุกคน แบมบี้นะคะ หลังจากที่มีคนทักมาเยอะว่า ทำตาที่ไหนดี วันนี้จะขอมา รีวิวตาหางหงส์ Black Swan Eyes Surgery™ ที่โรงพยาบาล SLC ให้ดูกัน เผื่อจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่สนใจ และก่อนที่จะเริ่ม รีวิวตาหางหงส์ ก็ขอเกริ่นก่อนเลย ว่าแบมเคยทำ ตาสองชั้น มาแล้วครั้งนึง ตอนที่ทำมาช่วงแรกก็สวยปกติเลยค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปนาน ๆ แล้ว ตาตก ตาเศร้า และชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน แต่ถ้ามองผ่าน ๆ ก็อาจจะมองไม่ชัดนะคะ แต่ส่วนตัวคือเป็นคนที่ชอบแต่งหน้า เลยเห็นหน้าตัวเองทุกวัน พอเห็นชั้นตาบ่อย ๆ ก็รู้สึกว่าอยากจะแก้มาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะ ทำตาที่ไหนดี ยกคิ้ว
และนี่ก็เป็นภาพก่อนทำค่ะทุกคน หลายคนคงมองว่ามันโอเคแล้ว แต่สำหรับเราคือมันต้องโอเคได้มากกว่านี้ จนวันนี้ได้ไปดูไลฟ์สดของโรงพยาบาล SLC คืออันนี้เลยค่ะ
คือเห็นแล้วคือชอบเลยค่ะ เพราะเป็นการทำตาแบบใหม่ที่มีการยกหางตา ให้ตาดูเฉี่ยว เพราะแบมเป็นคนที่หางตาตกด้วย มันทำให้หน้าดูเศร้า เลยอยากจะทำบ้าง จนได้มีโอกาสเข้ามาปรึกษากับคุณหมอค่ะ
ศัลยกรรม Black Swan Eyes Surgery™ ต่างจาก ศัลยกรรมตาสองชั้นทั่วไป อย่างไร?
สำหรับแบมแล้วก็เคย ศัลยกรรมตาสองชั้น มาครั้งหนึ่ง ถามว่าต่างกันยังไง ต้องบอกเลยว่าก็แอบมีความคล้าย แต่ก็มีความต่างด้วย เพราะเทคนิคการทำค่อนข้างที่จะคล้ายกันเลย แต่การทำตา Black Swan Eyes จะเป็นการทำแบบตวัดหางตาขึ้นแบบหางหงส์ควบคู่กับการยกคิ้ว เพื่อปรับองศาคิ้วและตาให้ดูเฉี่ยวมากขึ้น แต่การทำตางสองชั้นก็จะเป็นการแก้ไขให้ชั้นตากลับมาดูสดใส และแบมตัดสินใจเลือกที่จะทำเป็น Black Swan Eyes ก็เพราะคุณหมอแนะนำว่าถ้าแก้ตาสองชั้นอย่างเดียว ความต้องการที่อยากได้ จะไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เพราะหนังตาบริเวณกระดูกช่วงเบ้าตาแบมเยอะ มันทำให้ ตาตก ตาเศร้า เลยอยากยกคิ้วขึ้นเพื่อให้ชั้นตาดูสดใสขึ้น และก็ได้ทำการแก้ไขตาสองชั้น ตัดหนัง เจาะไขมัน แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง 1 ข้าง เพื่อปรับให้ดวงตาดูเชิดขึ้นแบบหางหงส์ ถ้าสนใจก็สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้เลยนะคะ
และในวันที่เข้ามาปรึกษากับคุณหมอ ก็มีการพูดคุยกันว่าอยากได้แบบไหน เราก็หาแบบมาให้คุณหมอดูด้วย
และนี่ก็เป็น Ref ที่แบมนำมาให้คุณหมอดู คุณหมอก็แนะนำว่าอาจจะได้ไม่เหมือนกับในแบบนะ เพราะว่ากระดูกช่วงเบ้าตาเราใหญ่ ถ้าเปิดแผลอาจจะทำให้เป็นรอยแผลเป็น หลังจากนั้นคุณหมอก็ได้มีการวัดชั้นตาและก็วัดระดับของคิ้วให้ดู ว่าอยากได้ประมานไหน ในส่วนของคิ้วเราก็บอกว่าขอยกสูงหน่อยนะคะ เพราะอยากให้ดาดูสดใสขึ้น ในส่วนของตา ครั้งแรกที่ทำตาตอนนั้นเราเลือกแบบธรรมชาติไป พอเวลาผ่านไปนานมันก็ตก ครั้งนี้ก็เลยบอกหมอว่า ขอชั้นตาที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยค่ะ เอาให้เห็นชั้นตาชัด ๆ เลย และคุณหมอก็ทักขึ้นมาว่า กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยนะ แต่ก็จะทำให้ออกมาดีที่สุดแน่นอน พอได้ยินแบบนี้แล้วก็หายห่วงเลยค่ะ
และเทคนิคที่คุณหมอใช้ก็จะเป็นทำการ ยกคิ้ว ด้วยเทคนิค Half Black Swan Brow Lift™ การยกเฉพาะปลายหางคิ้ว โดยเปิดแผลเหนือคิ้วเฉพาะบริเวณกึ่งกลางคิ้วไปจนถึงปลายคิ้ว ร่วมกับการเย็บชั้นตาและตวัดบริเวณปลายหางตา เพื่อให้หางตาเปิดและตวัดเชิดขึ้น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมClick!!!
และก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด คือตื่นเต้นมากค่ะ แต่พอทำจริง ๆ ก็คือ คุณหมอน่ารักมากค่ะ มีการชวนคุยและมีการบอกตลอดว่ากำลังทำอะไร คือจากที่ตื่นเต้นก็ไม่ตื่นเต้นเลยค่ะ และถามว่าตอนทำเจ็บไหม บอกเลยว่าเจ็บแค่ตอนฉีดยาชารอบแรกค่ะ แต่เจ็บแบบทนได้นะคะ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเลย นอนทำชิว ๆ เลย ทำเสร็จแล้วจะออกมาเป็นยังไงไปดูกันเลยค่ะ
และนี่ก็เป็นหลังทำทันทีเลยค่ะ ใช้เวลาในการผ่าตัดไป 2 ชั่วโมงครึ่ง เพราะในแต่ละขั้นตอน คุณหมอคือใส่ใจมาก ๆ เพราะอยากให้ออกมาดีที่สุด เพราะยกคิ้วเสร็จ คุณหมอก็จะวัดชั้นตาให้ใหม่ และระหว่างการทำคุณหมอก็จะให้หลับตา ลืมตา เพื่อดูว่าเราสามารถหลับตาได้สนิทหรือไม่สนิท ส่วนความรู้สึกหลังทำก็จะมีตึง ๆ ค่ะ จากนั้นพี่พยาบาลก็พาเราไปรับยา และก็ได้มีการบอกว่าต้องคอยล้างแผล และทายายังไง ดูแลดีมากค่ะ และการพักฟื้นหลังจากที่ทำไป ก็ไม่ได้ดูแลยากเลยค่ะ มีประคบเย็นแค่ 3 วันแรกและก็นอนหมอนสูง กินยาล้างแผลตามที่หมอสั่ง ไม่ได้ดูแลยากเลยค่ะ สบาย ๆ เลย และพอครบ 7 วัน คุณหมอก็ได้มีการนัดตัดไหมด้วยค่ะ ตอนที่ตัดไหมก็ไม่เจ็บอย่างที่คิดเลย พี่พยาบาลมือเบามาก
วันที่ 4 ก็เป็นวันแรกที่เริ่มแต่งหน้าค่ะ วันแรกก็ไม่ค่อยกล้าแต่งเยอะ เพราะยังมีความตึงอยู่ เลยเอาเท่าที่ไหว แต่ตอนที่แต่งก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอย่างที่คิดไว้เลย แต่ก็ยังไม่ค่อยชินกับการเขียนคิ้ว แต่งตามากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เกินความสามารถค่ะ ถามว่าแต่งหน้าง่ายขึ้นไหม ก็ปกตินะคะ เพราะไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็แต่งหน้าได้แน่นอน555555555555 แล้วถ้าถามว่าแต่งหน้าสนุกขึ้นไหม ก็สนุกขึ้นเยอะค่ะ เพราะว่าเราสามารถครีเอทลุคได้มากขึ้น ชอบเลยค่ะ
ตอนนี้ก็เริ่มยุบลงแล้วนะคะทุกคน แต่คุณหมอบอกว่า 3-6 เดือนจะเข้าที่กว่านี้อีก ยังไงจะมาอัพเดทให้ดูเรื่อย ๆ นะคะ และความประทับใจหลังจากที่ทำไป ส่วนตัวคือชอบมากค่ะ ตาดูสดใสกว่าเดิมเยอะเลย เวลาแต่งหน้าแต่งตาก็สนุกขึ้นด้วย มั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ คนรอบข้างที่เห็น แรก ๆ ก็มีแอบตกใจกันบ้าง แต่พอเข้าที่ก็มีแต่คนบอกว่าปังมาก เดี๋ยวไปทำบ้าง ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกไม่ผิดหวังเลยค่ะ ที่ตัดสินใจเข้ามาทำที่โรงพยาบาล SLC
มาพูดในเรื่องของแผลบ้างดีกว่าค่ะ ต้องบอกตามความจริงเลยนะคะ ว่าช่วงแรก ๆ ก็แอบกังวลกับรอยแผลเหมือนกัน แต่พอได้ทักปรึกษากับพี่ที่ดูแล ก็ให้คำปรึกษาดีมาก เพราะการทำศัลยกรรมไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ก็ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ไม่ใช่ทำปุ๊บแล้วสวยปั๊บ หลังจากที่ตัดไหมไปจนถึงปัจจุบัน รอยแผลก็ดีขึ้นมากเลยค่ะ อาจจะเป็นรอยแดงบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตลำบากอะไรเลย แต่งหน้าก็ไม่เห็นแล้ว แต่จะให้หายขาดเลยก็ขอเวลาอีกหน่อยนะคะ ถ้าหายดีแล้วจะมาอัพเดทให้ดูแน่นอน
ตอนนี้ก็รู้สึกทุกอย่างเริ่มเข้าที่มากขึ้นแล้วค่ะ แต่งหน้าง่ายขึ้นเยอะเลย รู้สึกชอบหน้าตัวเองมาก ดูมีอะไรบางอย่างที่มันเห็นแล้วมันดีต่อใจ 555555555 และที่สำคัญเลยก็คือ คนชมเยอะมาก และก็มีคนมาทักด้วย เพราะเห็นจากในไลฟ์สดที่โรงพยาบาล SLC คือดีใจมากที่มีคนจำเราได้ ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำศัลยกรรมครั้งนี้ เพราะเค้าบอกว่าจองคิวทำตามแล้ว ปังไม่ไหว
สุดท้ายนี้ แบมก็อยากจะฝากถึงเพื่อน ๆ ที่สนใจอยากทำ ก็สามารถเข้าไปปรึกษากับคุณหมอได้เลยนะคะ คุณหมอให้คำปรึกษาได้ดีและครบถ้วน หมดข้อสงสัยเลยค่ะ และโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งมาตรฐานระดับ Boutique Hospital มั่นใจได้เลยค่ะ ว่าทำออกมาดีและปัง และที่สำคัญเลยนะคะ ต้องบอกเลย ว่าที่โรงพยาบาล SLC คือผู้นำเทรนด์เรื่องศัลยกรรมแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ถ้าสนใจก็สามารถเข้าไปปรึกษากันได้เลย รับรองว่าทุกปัญหาที่มีจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ
ขอบคุณโรงพยาบาล SLC ที่มี Reality Live ดี ๆ เก็บไว้ให้ดูย้อนหลังด้วย
Call : +66 2 714 9555
Whatsapp : +66 96 116 0806
Line@ : @SLCCLINIC
Or Click : https://cutt.ly/SLC
Messenger : http://m.me/SLCHospital
Our Branches : https://cutt.ly/branches