เสริมจมูกซิลิโคน เทคนิค Closed Rhinoplasty ยังไงให้สวย ไม่ต้องแก้!!!

ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมยอดฮิตที่เป็นที่นิยมกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน เพศไหน ต่างก็ให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะแก้ปัญหา เนื้อจมูกน้อย จมูกสั้น ปลายจมูกบาง รวมถึงผู้ที่ต้องการ แก้จมูก ตัดปีกจมูก ยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และการ เสริมจมูกซิลิโคน ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ก็นับว่าเป็นอีกหัตถการที่ได้รับความไว้วางใจ และเป็นที่ยอมรับ เนื่องจากศัลยแพทย์ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC สามารถวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบทรงจมูกใหม่ เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่สวยงามในแบบที่ถูกใจมากที่สุด ยืนยันและการันตีด้วยเสียงของลูกค้าจริงผ่าน Reality Live และ รีวิวเสริมจมูก จากดาราและเซเลบริตี้อีกมากมาย

เสริมจมูกซิลิโคน ที่ไม่ใช่แค่การเสริมจมูก

การศัลยกรรม เสริมจมูก หลายคนมักจะคิดว่าการมีจมูกที่พุ่งและโด่ง คือจมูกที่สวย แต่ที่จริงแล้ว จมูกที่สวย คือ จมูกที่รับกับสัดส่วนใบหน้าและทำให้ใบหน้าโดยรวมดูดี ดูมีมิติ และมีความโดเด่นมากยิ่งขึ้น การศัลยกรรมเสริมจมูกโดยทั่วไป ศัลยแพทย์มักจะทำการออกแบบรูปทรงจมูกโดยพิจารณาจาก เนื้อจมูก โครงสร้างจมูก และโครงสร้างใบหน้า แต่ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ศัลยแพทย์เล็งเห็นถึงปัญหา และสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด

Closed Rhinoplasty: ศัลยกรรมเสริมจมูก แบบปิด

การศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด หรือ การเสริมจมูกโดยการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณรูจมูกข้างเดียว และใช้วัสดุทางการแพทย์เสริมความโด่งของสันจมูก โดยทั่วไปจะใช้ซิลิโคนทางการแพทย์ในการเสริมความโด่งเพียงอย่างเดียว แต่ในบางท่านอาจจะมีการใช้วัสดุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กระดูกอ่อนหลังหู, เนื้อเยื่อก้นกบ หรือ เนื้อเยื่อเทียม มาใช้รองปลายจมูกในผู้ที่มีปัญหาเนื้อจมูกบาง เนื้อจมูกน้อย เป็นต้น ซึ่งการเสริมจมูกแบบปิดจะ เหมาะกับ ผู้ที่มีพื้นฐานจมูกค่อนข้างดี ตั้งแต่ดั้งจนถึงปลายจมูกเรียวเล็กและอยู่แล้ว

เสริมจมูก เทคนิค Closed เหมาะกับใคร ?

1. เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว แต่อยากเพิ่มความโด่งให้กับจมูก

2. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา เนื้อจมูกน้อย จมูกสั้น ปลายจมูกบาง

สำหรับ คนที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว แต่ยังพบเจอปัญหา จมูกสั้น ปลายจมูกบาง จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอย ปลายจมูกแดงอักเสบ จมูกทะลุ จำเป็นต้องผ่าตัด แก้จมูก ไม่ว่าจะเป็นการ แก้จากการเสริมซิลิโคน หรือการ แก้จากการฉีดสารเติมเต็ม ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ก็ยังมีการศัลยกรรม เสริมจมูก เทคนิค Open Rhinoplasty เป็นอีกทางเลือก ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด หรือใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ เสริมจมูก เทคนิค Open กดที่นี่

ประเภทของซิลิโคน เสริมจมูก

1. ซิลิโคนสำเร็จรูป

คือซิลิโคนที่ถูกผลิตและออกแบบขึ้นรูปไว้ ตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยมีลักษณะรูปทรงที่แน่นอนและพร้อมใช้งาน และมีขนาดความกว้างและความยาวที่แตกต่างกันออกไป โดยศัลยแพทย์จะนำมาปรับแต่งทรงเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกและรับกับใบหน้าของแต่ละบุคคล

2. ซิลิโคนเหลา เคสต่อเคส

เป็นซิลิโคนที่มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ นำมาเหลาขึ้นรูปปรับให้เข้ากับจุดบกพร่อง และเสริมจุดเด่นของจมูกแต่ละคน เพื่อให้ได้ทรงที่เหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด ในระยะยาวซิลิโคนเหลายิ่งยุบยิ่งสวย ป้องกันผลแทรกซ้อนหลังทำจมูกได้ดีกว่าซิลิโคนสำเร็จรูปที่ไม่ผ่านการเหลา

Option การศัลยกรรม เสริมจมูก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC

1. ตะไบฐานจมูก

เป็นวิธีที่ช่วยปรับสันจมูกที่มีฮัมพ์สูง ไม่เรียบเนียน ให้สโลปสวยขึ้นได้ โดยศัลยแพทย์จะทำการตะไบฮัมพ์เพื่อให้การวางซิลิโคนแนบไปกับสันจมูก และวิธีนี้จะช่วยลดโอกาสซิลิโคนพลิก ซิลิโคนเอียง แต่ถ้าศัลยแพทย์ทำการตะไบไม่ดี ทำให้มีกระดูกอ่อนที่นูนออกมา อาจจะทำให้ซิลิโคนไม่แนบสนิทไปกับสันจมูก และอาจทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนลอยในอนาคตอีกด้วย

2. ตอกฐานจมูก

เป็นเทคนิคที่ช่วยปรับโครงสร้างจมูก ลดขนาดแกนจมูกหรือฐานจมูกที่มีขนาดใหญ่ ขนาดกว้าง ให้เล็กลง ทำให้ได้ฐานมีความเรียวเล็กมากยิ่งขึ้น โดยเทคนิคนี้จะไม่มีแผลเป็นด้านนอก

3. รองปลายจมูก

คือเทคนิคการยืดปลายจมูกให้ดูเรียวยาว ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ จมูกสั้น ปลายจมูกบาง และผู้ที่อยากมีปลายจมูกพุ่ง โดยศัลยแพทย์จะนำวัสดุมารองบริเวณส่วนปลายจมูก โดยจะใช้วัสดุจากร่างกาย และวัสดุสังเคราะห์ เทคนิคนี้สามารถช่วยป้องกันปัญหา จมูกทะลุ และวัสดุที่ใช้รองปลายมีดังนี้

เนื้อก้นกบ คือเนื้อบริเวณเหนือร่องก้น เป็นเนื้อชั้นหนังแท้ที่ติดไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งศัลยแพทย์นิยมนำมาใช้รองปลายจมูก เพราะสามารถยืดหยุ่นได้ดี และช่วยลดการทะลุได้ดี โดยแผลก้นกบจะถูกซ่อนตามขอบบิกินี่ ทำให้ไม่เห็นแผลหลังผ่าตัด

กระดูกอ่อนหลังหู เป็นวัสดุที่มาจากร่างกาย โดยศัลยแพทย์จะนำกระดูกอ่อนบริเวณหลังหูมาใช้ควบคู่กับการ เสริมจมูก เพื่อยืดปลายจมูกให้พุ่งและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยการนำกระดูกอ่อนหลังหูออกมาใช้ จะไม่มีผลทำให้โครงสร้างใบหูผิดรูป และแผลจะซ่อนอยู่ด้านหลังตรงรอยพับใบหู ยากต่อการสังเกตเห็น

เนื้อเยื่อเทียม เป็นเนื้อเยื่ออ่อนสังเคราะห์ทางการแพทย์ คล้ายเนื้อเยื่อจริง ที่สามารถนำมาใช้ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย ใช้กันอย่างแพร่หลาย และช่วยลดการทะลุของซิลิโคนจมูกได้ดี

3 รูปแบบรองปลายจมูก ตอบโจทย์คน เนื้อจมูกน้อย

ชนิดของวัสดุรองปลายจมูก	กระดูกอ่อนหลังหู	เนื้อเยื่อก้นกบ	เนื้อเยื่อเทียม
แหล่งที่มา	จากร่างกาย	จากร่างกาย	วัสดุสังเคราะห์
ตำแหน่งแผล	แผล 2 จุด จมูกและหู	แผล 2 จุด จมูกและก้นกบ	แผลจมูก 1 จุด
ข้อดี	แข็งแรงกว่าเนื้อเยื่อ รองรับความตึงได้ค่อนข้างมาก	นิ่ม รองรับแรงตึงได้ดี มีความยืดหยุ่น	นิ่มคล้ายเนื้อเยื่อจริง ยืดหยุ่นสูง
เหมาะกับ	คนที่ต้องการปลายพุ่งชัด	คนที่แก้จมูกมาหลายรอบและมีปัญหาปลายจมูกบาง รวมถึงคนที่ใช้กระดูกอ่อนหลังหูจนหมดแล้ว	เหมาะกับคนที่ ปลายจมูกบาง ไม่ต้องการมีแผลหลายที่
ข้อจำกัด	หากศัลยแพทย์เหลาไม่ดี อาจทำให้เห็นขอบกระดูก ที่ปลายจมูกชัด	หากดูแลไม่ดีมีโอกาสที่เนื้อเยื่อก้นกบจะสลาย	ร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับเนื้อเยื่อเทียม ช่วง 1-2 เดือนแรก อาจมีอาการแดง บริเวณปลายจมูก (ไม่ใช่การอักเสบ)

4. ตัดปีกจมูก

ในผู้ที่มี รูจมูกกว้าง ปีกจมูกใหญ่ จมูกชมพู่ หรือผู้ที่มีรูจมูกไม่เท่ากัน ก็สามารถ ตัดปีกจมูก ร่วมกับการศัลยกรรม เสริมจมูก ได้เช่นกัน เพื่อปรับให้รูจมูกเล็กลง ขนาดของจมูกได้สัดส่วน และปรับสมดุล สร้างมิติให้รับกับใบหน้าได้อีกด้วย สามารถทำได้ 2 แบบ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์

1. ตัดปีกจมูก จากด้านใน เพื่อเก็บยกปีกจมูก เหมาะกับ ผู้ที่มีรูจมูกกว้าง และปีกจมูกห้อย ซึ่งรอยแผลจะซ่อนไว้ด้านในของปีกจมูก อยู่ในจุดที่มองเห็นได้ยาก

2. ตัดปีกจมูก จากด้านนอก เหมาะกับ ผู้ที่รูจมูกไม่กว้างมาก ปีกจมูกไม่ห้อย แต่มีปีกจมูกหนา โดยรอยแผลจะซ่อนไว้ด้านในของปีกจมูก ซึ่งมองเห็นได้ยาก

รีวิวทำจมูก2021 รีวิวเสริมจมูกSLC รีวิวแก้จมูก รูจมูกไม่เท่ากัน รูจมูกเบี้ยว — รีวิวเสริมจมูก

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลและการประเมินของศัลยแพทย์โดยตรง

เลือกทรงจมูกยังไง ทรงจมูกแบบไหนที่ทำให้สวยขึ้น

จมูกพุ่ง จมูกโด่ง มันเอ้าท์ไปแล้ว เพราะในปัจจุบันการศัลยกรรม เสริมจมูก ส่วนใหญ่จะต้องเป็นทรงที่รับกับใบหน้า และมีความพอดี โดยศัลยแพทย์จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างจมูกและโครงสร้างใบหน้า เพื่อดีไซน์ทรงจมูกให้เหมาะสมในแต่ละท่าน และที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC เน้นการออกแบบทรงจมูกเฉพาะบุคคล เพื่อให้ทรงจมูกได้รูป และปรับสมดุลให้รับกับใบหน้า ทำให้ใบหน้ามีมิติมากยิ่งขึ้น โดยศัลยแพทย์จะใช้ความเชี่ยวชาญ ฝีมือ และประสบการณ์ ร่วมกับศาสตร์แขนงอื่น ผสมผสานกับความเป็นศิลปะลงไปในการออกแบบดีไซน์รูปทรงของซิลิโคน และวางลงบนโครงสร้างจมูกให้สอดคล้องกลมกลืนกับส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล และการประเมินของศัลยแพทย์

Meet The Doctor คลายข้อสงสัย ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ เสริมจมูก

คุยกับคุณหมอปลาวาฬ เจาะลึกทุกเรื่องก่อน “ทำดั้ง” คลิกที่นี่

1. ศัลยกรรมเสริมจมูก อัพดั้ง ไขข้อข้องใจ โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

2. ศัลยกรรมเสริมจมูก อัพดั้ง ไขข้อข้องใจ โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ระยะเวลาในการผ่าตัด

ใช้ระยะเวลาประมาน 1-2 ชั่วโมง

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด

ราคาไม่สูงเท่าการทำจมูกแบบเปิด สามารถทำร่วมกับการ ตัดปีกจมูก
บวมช้ำน้อย บางรายไม่บวมช้ำเลย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ
ใช้เวลาไม่นาน 30 นาที โดยประมาณ

ขั้นตอนการผ่าตัด เสริมจมูก

ศัลยแพทย์ตรวจวิเคราะห์ โครงสร้างจมูก กับรูปทรงที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล
ฉีดยาชาเพื่อระงับความรู้สึก
ผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็กในรูจมูก และปรับแต่งซิลิโคนให้รับกับใบหน้า
เย็บปิดแผลอย่างประณีต
ประคบเย็นบริเวณจมูก 15-30 นาที

เตรียมตัวก่อนศัลยกรรม เสริมจมูก

ก่อนทำศัลยกรรมต้องแจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา รวมถึงอาหารเสริมที่รับประทาน ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องและมีโรคประจำตัว จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเรื่องแผลหายยาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
งดยาในกลุ่มที่จะมีผลต่อการหยุดไหลของเลือด เช่น งดแอสไพริน ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
งดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิด เช่น วิตามินอี , น้ำมันตับปลา , เมล็ดองุ่น , ใบแปะก๊วย , โสม ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน
งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่จะทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล และมีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณผ่าตัดลดลง มีโอกาสทำให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดเลือด หายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 – 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
กรณีที่ท่านมีอาการเจ็บป่วยปัจจุบัน เช่น-มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เสมหะ ท้องเสีย มีแผลติดเชื้อ หรือเป็นประจำเดือน ฯลฯ กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันผ่าตัด อย่างน้อย 1-3 วัน
เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวม ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

Tips : เตรียมความพร้อมในวันผ่าตัด

อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อยในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ งดแต่งหน้า งดทาเล็บ งดทาโลชั่น งดฉีดน้ำหอม หรือใส่เครื่องประดับในวันผ่าตัด กรุณาเก็บของมีค่าไว้ที่บ้าน
ใส่เสื้อผ้าที่มีลักษณะหลวม–ๆ มีซิบหรือกระดุมด้านหน้า ไม่ควรใส่ชุดหรือกางเกงรัดรูป และไม่ควรขับรถมาเองผู้เดียว ต้องมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วยในวันผ่าตัด
ควรมาเตรียมตัวก่อนเวลาผ่าตัด 1–ชั่วโมง

ระยะเวลาการพักฟื้นหลังทำจมูก

หลังเสริมจมูกผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ สามารถไปทำงานปกติได้ในวันถัดไปแต่ให้ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก

วิธีดูแลตัวเองหลัง เสริมจมูก

ประคบผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งด้วยความระมัดระวังในช่วง 7–วันแรก รอบบริเวณที่ติดเทป โดยระวังอย่าให้ถุงน้ำแข็งสัมผัสกับบริเวณที่ติดพลาสเตอร์
หลังวันที่ 7 หลังจากแกะพลาสเตอร์แล้ว ให้ประคบอุ่นบริเวณที่บวมช้ำ
นอนหนุนหมอน ในท่าที่ศีรษะสูงในช่วง 2-3–วันหลังการทำ เนื่องจากหลังการผ่าตัดเสริมจมูกไปแล้ว 24ชม. จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณจมูก และมีอาการบวมบริเวณใบหน้า
หลังจากทำจมูก 3-7 วันแรก สามารถไปทำงานได้ โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างที่ต้องออกกำลังมาก อย่างเช่น การวิ่ง , การว่ายน้ำ
ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก , การขยี้จมูก , ก้มหน้านาน–ๆ รวมถึงการยกของหนัก
ไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 2-3 วันหลังจากการทำ เพราะอาจจะทำให้จมูกผิดรูป
ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรง–ๆ
หลีกเลี่ยงกิจกรรมทีอาจจะกระทบกระเทือนจมูกได้ เช่น–การวิ่ง การกระโดด ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และตัดไหมหลังจากทำ 1–สัปดาห์
หลังจากทำไปแล้ว 1-2 สัปดาห์อาการบวม หรือเขียวคล้ำจะหายไป ทุกอย่างจะเริ่มเป็นธรรมชาติหลังจากที่ทำไปประมาณ 1-3–เดือน
รับประทานตามที่โรงพยาบาลศัลยกรรม–SLC จัดให้จนครบ และมาพบศัลยแพทย์ตามนัด
หากมีอาการผิดสังเกต หรือมีข้อสงสัย กรุณาโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ทันที
โดยปกติจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ใน 3-6 เดือนขึ้นไป ซึ่งในการดูจมูกว่าเอียงหรือไม่ สามารถดูได้เมื่อครบ 3 เดือนไปแล้ว

อาการที่อาจพบได้หลังทำจมูก

หลังทำจมูก 24 ชั่วโมง อาจจะรู้สึกปวดศีรษะ ปวดบริเวณจมูก บวมบริเวณใบหน้า ให้รับประทานยาแก้ปวดที่โรงพยาบาลจัดให้
จมูกอาจจะบวมมากที่สุดประมาณ 2 – 3–วัน สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ปิดแผลไว้ออกได้ โดยแกะออกได้ตอนครบ 7–วัน

สิ่งที่ควรระวัง : ระวังการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก รวมถึงงดเล่นโทรศัพท์มือถือขณะนอนราบ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการทำโทรศัพท์มือถือตกใส่บริเวณใบหน้า

สำหรับใครที่อยากรู้วิธีการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกและการดูแลหลังเสริมจมูกสามารถ กดที่นี่ เพื่ออ่านคู่มือการเตรียมความพร้อมและการดูแลหลังเสริมจมูก บอกหมดไม่มีกั๊ก หลังเสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง และอะไรบ้างที่หมอศัลย์บอกอย่าเพิ่งหาทำ!! ถ้าไม่อยากจมูกพัง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ เสริมจมูกซิลิโคน

คิดจะ เสริมจมูกซิลิโคน ต้องรู้อะไร?

1. ซิลิโคนทางการแพทย์ คือซิลิโคน BIO MEDICAL GRADE มีคุณภาพดี ปราศจากเชื้อ ซิลิโคนสำหรับศัลยกรรมเสริมจมูกจะมีความบริสุทธิ์เหมาะสำหรับใส่ในร่างกายมนุษย์ ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยอยู่ในระบบปิดและเป็น Full Sterile Technique เป็นโรงงานที่มีการควบคุมเรื่องความสะอาด ปราศจากสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือเชื้อโรค มาเจือจนในซิลิโคนสำหรับทำจมูก

2. ซิลิโคนเสริมจมูกอยู่ได้นานไหม?

การศัลยกรรมเสริมจมูกเราทำเพื่อให้จมูกดูโด่งสวย ถ้าเราทำจมูกได้ทรงที่ดีเข้ากับใบหน้าตัวเองแล้ว ซิลิโคนที่ใช้ทำจมูกไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน สามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต เพราะซิลิโคนที่ใช้ทำจมูกเป็นซิลิโคนแท่งไม่มีของเหลว ไม่มีสิ่งอื่นเจือปนอยู่ข้างใน ซึ่งมีความคงรูปและคงตัวสูงมาก

3. เนื้อจมูกน้อย อยากเสริมจมูกให้โด่งแบบดารา จะทะลุไหม?

สำหรับคนที่มีเนื้อจมูกน้อย หากเลือกความโด่งที่พอดีไม่ฝืนเนื้อจมูกจนเกินไป ช่วยให้โอกาสที่จมูกจะทะลุมีน้อยมากค่ะ แต่ในปัจจุบันมีวัสดุที่ใช้สำหรับรองปลายจมูก เช่น กระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อก้นกบ เพื่อแก้ไขปัญหาปลายจมูกบางค่ะ

4. ถ้าเสริมจมูกมาแล้ว ในอนาคตอยากเปลี่ยนทรงจมูกทำได้ไหม?

ถ้าอยากเปลี่ยนทรงจมูก สามารถแก้จมูกเพื่อปรับเปลี่ยนทรงจมูกได้ แต่เปลี่ยนเท่าที่จำเป็น เพราะในปัจจุบัน จมูกที่สวยไม่ได้มีคำนิยามว่าเป็นจมูกทรงใดอีกต่อไป ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่นและความต้องการของผู้รับบริการ